พหลโยธินบูม! ถนนตัดใหม่ 2 สองเส้นเชื่อมถึงรามอินทราและวิภาวดี

หากเอ่ยถึงพหลโยธิน ใคร ๆก็รู้ว่าเป็นถนนเส้นที่เป็นทำเลทองอยู่แล้ว เพราะมีทั้งออฟฟิศ โรงเรียน มหาลัย และแถมยังใกล้สนามบินดอนเมือง นอกจากนี้ยังสามารถตัดเชื่อมเข้าสู่ถนนสำคัญๆ อาทิเช่นถนนแจ้งวัฒนะและรามอินทรา และพหลโยธินนอกจากนี้ ขับรถประมาณ 10 ก.ม. ก็สามารถเข้าสู่ถนนสำคัญอย่างลาดพร้าว รัชดาภิเษกได้แล้ว ที่สำคัญคือพหลโยธินกำลังจะเป็นทำเลที่บูมขึ้นกว่าเดิม! เมื่อมีถนนตัดใหม่เพิ่มขึ้น 2 เส้น และรถไฟฟ้าสายสีเขียวตัดผ่าน

1. ถนนตัดใหม่เทพรักษ์!!!

ถนนตัดใหม่เทพารักษ์
ถนนตัดใหม่เทพารักษ์

ถนนเส้นนี้ก่อสร้างเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2558 เป็นถนนที่เชื่อมโยงระหว่างถนนพหลโยธินกับพื้นที่ย่านรามอินทรา ทำให้คนที่อยู่เส้นพหลโยธินสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สภาพถนนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 6 ช่องจราจร 2 ทิศทาง ทิศทางละ 3 ช่องจราจร ความยาวประมาณ 5,250 เมตร เขตทางกว้างประมาณ 40-60 เมตร ถนนเส้นนี้สามารถช่วยกระจายการจราจรบนถนนรามอินทราและถนนพหลโยธินสู่ถนนสายรอง อาทิ ถนนสุขาภิบาล 5, ถนนวัชรพล, ถนนสายไหม, ถนนเพิ่มสิน-ออเงิน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจบริเวณนี้ในอนาคต

2.ถนนเส้นใหม่เชื่อมพหล 50 –วิภาวดี

ถนนตัดใหม่วิภาวดี
ถนนตัดใหม่วิภาวดี

นอกจากถนนตัดใหม่เทพรักษ์แล้ว อนาคตการเดินทางจากเส้นพหลโยธินไปวิภาวดีจะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก เพราะทางกทม.ทุ่มงบ 3.8 พันล้าน เร่งเวนคืนก่อสร้างถนนใหม่ 6 เลน เชื่อม “วิภาวดี-พหลโยธิน 50” ทะลุรัตนโกสินทร์สมโภช เปิดหน้าดินที่ตาบอด และเพิ่มโครงข่ายเชื่อมการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯตะวันออก – กรุงเทพฯตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 62

3.รถไฟฟ้าสายสีเขียว

อีกหนึ่งตัวเร่งที่ทำให้ทำเลพหลโยธินยิ่งบูมขึ้นไปอีกก็คือรถไฟฟ้า หมอชิต สะพานใหม่ คูคต ที่เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองโซนนอกและใจกลางเมืองเข้าด้วยกัน นับว่าเป็นสายที่มีศักยภาพมากที่สุดอีก 1 สาย เมื่อสร้างเสร็จแล้วจำนวนคนที่รอใช้บริการนั้นมีไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน ราคาที่ดินเสนอขายสูงถึง 2.5 แสนบาทต่อตร.ว. เพิ่มขึ้นจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 100% และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอีก สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีสถานีทั้งหมด 16 สถานี กำหนดเสร็จปี 2562 และเปิดให้บริการปี 2563 ระยะทางตั้งแต่ต้นสายถึงปลายสายรวมระยะทางแล้วกว่า 19 กิโลเมตร แถมบางสถานียังเชื่อมกับระบบขนส่งมวลชนสายอื่นด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้สะดวก ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 5 แยกลาดพร้าว ยาวไปจนถึง สถานีตำรวจภูธรคูคต

แนะนำคอนโดน่าซื้อ
ซอยพหลโยธิน 300เมตรถึงรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์หลักสี่
นอกจากคอนโด KnightsBridge Phaholyothin Interchange ทาง Origin Property ยังมีอีกหนึ่งคอนโดน่าซื้อที่อยู่ใกล้ๆกัน ซึ่งก็คือ “Kensington 63” ซึ่งกำลังจะจัดงาน Pre-Sales เปิดตัวใหม่พร้อมกันในวันที่ 15-16 ก.ย. นี้ ลงทะเบียนจองสิทธิ์ คลิก https://bit.ly/2PGYLVB โดยสำนักงานขายจะอยู่ที่เดียวกันตามรูปด้านล่าง มาดูกันดีกว่าว่านอกจากทำเลที่ดี ทำไม Kensington63 จึงเป็นอีกหนึ่งคอนโดน่าซื้อที่ทาง Around Living คัดเลือกมา

Map Kensington 63
Map Kensington 63

1. มีความเป็นส่วนตัวสูง

Kensington63
Kensington63

ถึงแม้จะอยู่ใจกลางความเจริญและสะดวกสบายมากมาย แต่ในซอยพหลโยธิน63 เป็นซอยตันไม่ต้องกลัวว่าจะมีรถยนต์วิ่งผ่านไปผ่านมา ทำให้มีความสงบและเป็นส่วนตัวสูง สำหรับการซื้อคอนโดสักที่หนึ่ง ทำเลนี้ถือเป็นที่อยู่อาศัยที่ทั้งสงบและมีความเป็นส่วนตัว แต่อยู่ใจกลางเมือง ซึ่งแน่นอนว่าหาทำเลแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังเป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร และมีจำนวนยูนิตน้อยเพียง 231ยูนิต บนเนื้อที่ 1 – 3 – 31 ไร่ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การพักผ่อน

2. วัสดุเกรดดี แต่ราคาถูกกว่า

Facility ครบครับสมบูรณ์แบบ
Facility ครบครับสมบูรณ์แบบ

Around Living สืบทราบมาว่าการแบ่งเกรดโครงการของ Origin Property ถ้าเป็นโครงการ Knightsbridge จะให้วัสดุเกรด A คุณภาพสูง แต่โครงการ Kensington 63 ได้ทำการอัพเกรดวัสดุเทียบเท่ากับ Knightsbridge ซึ่งเป็นตัวท๊อปของ Origin แต่ขายในราคาที่ถูกกว่า ต่ำกว่าคู่แข่งทั้งๆที่มาตรฐานเท่ากันหรือดีกว่า ถ้าตัดสินใจซื้อโครงการนี้ก็มั่นใจได้ว่าได้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมแน่นอน

3. การจัด Layout ห้องเป็นสัดส่วน ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การจัด Layout ห้อง
การจัด Layout ห้อง

การจัดพื้นที่ห้องโดยแบ่งแยกระหว่างโซนนั่งเล่นและโซนพักผ่อน โดยมีกระจกใสเป็นตัวกั้นซึ่งทำให้ห้องดูกว้าง โปร่งแต่เป็นสัดส่วน

โซนนั่งเล่น
โซนนั่งเล่น

ในส่วนของโซนนั่งเล่น Origin ก็สามารถออกแบบให้ใช้สอยพื้นที่ได้เต็มศักยภาพทุกส่วน เช่นตู้บนทีวีที่มีส่วนที่สามารถใส่ของโชว์ได้ และตู้ปิดมิดชิดที่สามารถเก็บของได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ด้านบนตู้ให้สามารถวางต้นไม้หรือโชว์ของใหญ่ๆไว้ด้านบนได้อีกด้วย

ห้องนอน
ห้องนอน

ในโซนห้องนอนสามารถจัดแบ่งเป็นสัดส่วนสำหรับวางเตียง 6 ฟุตและทำตู้เสื้อผ้า Build-in ขนาดใหญ่ข้างเตียง

ห้องครัว
ห้องครัว

ในส่วนห้องครัวเป็นห้องครัวแยกปิดมิดชิด สามารถทำอาหารได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีกลิ่นเข้าไปติดส่วนอื่น ๆของห้อง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดูดควันและเตายี่ห้อ Teka อีกเรื่องที่ทาง Around Living ชอบคอนโดของ Origin ก็เพราะตีโจทย์เรื่องการใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สังเกตจากการออกแบบห้องครัวให้มีพื้นที่เก็บของทั้งด้านบน ด้านล่าง และมีที่แขวนอุปกรณ์ชุดครัวทั้ง 2 ด้าน มีช่องใส่ไมโครเวฟในตู้ด้านล่างเพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ด้านบนในการจัดเตรียมอาหารได้เยอะขึ้น

ห้องครัวกับห้องน้ำ
ห้องครัวกับห้องน้ำ

ถัดจากโซนห้องครัวจะมีพื้นที่ว่างระหว่างห้องครัวกับห้องน้ำที่ถูกจัดสรรเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางหนังสือ ถือเป็นได้ทั้งโซนแต่งตัวและโต๊ะทำงานในเวลาเดียวกัน 2 in 1 สองฟังก์ชั่นในหนึ่งเดียว มากไปกว่านั้นคือด้านบนออกแบบเป็นตู้เก็บของและชั้นวางของตกแต่ง ถือว่าเป็นการออกแบบที่ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ได้เกือบ 100%

ห้องน้ำ
ห้องน้ำ

ส่วนห้องน้ำเป็นกระจกกั้นระหว่างโซนอาบน้ำและแต่งตัว สุขภัณฑ์ที่ใช้ก็เป็นสุขภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมจาก American Standard การออกแบบซิงค์ล้างมือก็เพิ่มฟังชั่นเก็บของไว้ด้านล่างอย่างแนบเนียน ตกแต่งด้วยโทนสีเทา ทำให้ห้องน้ำดูหรูและง่ายต่อการทำความสะอาด

4. Facility ครบครับสมบูรณ์แบบ

โดยโครงการมีที่จอดรถ 73 คัน หรือประมาณ 30% ส่วนลิฟต์มี 2 ตัว นอกจากนี้ยังมี Co-Working Space และ Lobby ส่วนกลางที่ดูสวยงามน่านั่งเล่นมาก และยังมีสวนพักผ่อน ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ ที่จัดมาให้ครบเรียบร้อย

Facility Kensington 63
Facility Kensington 63
Facility Kensington 63
Facility Kensington 63
Facility Kensington 63
Facility Kensington 63

ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือ Kensington63 มีราคาเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท ใครสนใจโครงการ Kensington63 สามารถร่วมงาน Pre-Sale วันที่ 15-16 ก.ย. นี้ได้ที่สำนักงานขาย หรือ ลงทะเบียนจองสิทธิ์ คลิก https://bit.ly/2PGYLVB