วันที่ “บางนา” เต็มไปด้วย Mega Project หลากแนว หลายทำเลเพื่อทุกคน
จากย่านที่ถูกมองว่า “ไกล ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จะไปทำไม” กลายเป็นย่านที่ “ใกล้ คุ้นเคย อุดมสมบูรณ์”
สำหรับ “วัยรุ่นยุค 90” สิ่งแรกที่พวกเขานึกถึง เมื่อพูดถึง “บางนา” มักจะเป็น Land mark ดั้งเดิมประจำย่านอย่าง ไบเทค บางนา (BITEC Bangna) ศูนย์แสดงสินค้าอันดับต้นๆ ของประเทศ บนทำเล “ไข่แดง” ของย่านบางนา แม้จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามด้วยห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา (Central Plaza Bangna)ห้างชานเมืองที่อยู่คู่กับย่านนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 นอกจากสถานที่สองแห่งนี้ ที่เหลือก็คงมีแค่ ทางด่วนบูรพาวิถี กับบรรดาหมู่บ้านจัดสรร ที่กระจายอยู่ไปตามซอกซอยต่างๆ
บางนา ชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่เดิม ได้เปลี่ยนไป และจะเติบโตมากขึ้น จาก Mega Project หลากหลายรูปแบบ ที่แผ่กระจายออกไปทั่ว ทั้งบนถนนบางนา-ตราด และถนนสุขุมวิท ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย
ความสะดวกสบาย ความหลากหลาย และชีวิตที่มีสีสันขึ้น คือผลพลอยได้ที่เห็นได้ชัดว่าว่า คนที่อาศัยในโซนนี้จะได้รับ แต่สิ่งที่บางคนอาจมองไม่เห็นคือ ทั้งหมดนี้ จะพ่วงมากับ ราคาสินทรัพย์ในพื้นที่ๆ สูงขึ้น ในวันที่โครงการต่างๆ พัฒนามากขึ้น ยิ่งพัฒนามาก ก็ยิ่งแพงมาก
ความโชคดีคือ ในวันนี้ ราคายังอยู่ในเกณฑ์จับต้องได้ เพื่อรอการปรับตัวขึ้นใน 2-5 ปีนี้
ทำความรู้จักกับ Mega Project ย่านบางนา
BITEC Bangna(ไบเทค บางนา)
บางคนอาจจะงงเล็กน้อยว่า เราจะพูดถึงไบเทค บางนาทำไม แต่อย่าลืมว่า ศูนย์การแสดงสินค้าที่เดิม เพิ่มเติมคือ เฟส 2 ที่เปิดใช้ไปเมื่อปี 2560 ทำให้โครงการมีพื้นที่จัดแสดงสินค้ารวมกว่า 70,000 ตารางเมตร รองรับงานอีเว้นท์ครบทุกรูปแบบ ตั้งแต่งานเล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่มาก แม้ขนาดพื้นที่ยังเป็นรองคู่แข่งอย่าง Impact เมืองทองอยู่ แต่ด้วยความสะดวกในการเดินทางที่เหนือกว่าชนิด “หนังคนละม้วน” ด้วยรถไฟฟ้า BTS ทำให้ไบเทค บางนา มีงานอีเว้นท์น้อยใหญ่มาจัดแสดงอย่างไม่ขาดสาย
Whizdom 101
โครงการ Mixed use พื้นที่ 43 ไร่ ภายใต้แนวคิด “Third place” บนทำเลที่เกือบจะเป็นใจกลางเมืองอย่าง BTS อุดมสุข ขนาดอาจไม่ใหญ่นัก เมื่อเทียบกับโครงการที่เราจะพูดถึงหลัง
จากนี้ แต่ที่ไม่แพ้ใครแน่ๆ คือความ “ครบครัน” เพราะกิจกรรมที่คุณมักทำนอกบ้าน และนอกที่ทำงาน ได้มารวมอยู่ที่นี่ ตั้งแต่สวนสาธารณะ ออกกำลังกาย ทานอาหาร ช้อปปิ้ง เรียนพิเศษ ฯลฯ และที่สำคัญคือ โครงการจะเปิดให้บริการในปี 2561 นี้
The Bangkok Mall
โครงการขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ที่หลายคนคงจะเห็น “Teaser” มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ไม่ต้องห่วง เพราะโครงการ Mixed use ขนาดยักษ์ บนทำเลสุด Prime จาก The Mall Group ประจำย่านบางนาแห่งนี้ จะเริ่มก่อสร้างในปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ถึงวันนั้น ย่านบางนา จะมีทั้ง ออฟฟิศ โรงแรม ศูนย์การค้า สวนสนุก และ Hub การเดินทาง สมใจอย่างแน่นอน อดใจรออีกสักหน่อย!
The Forestias
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าประเทศไทย กำลังจะมีโครงการขนาดใหญ่ที่ผู้พัฒนา มีความตั้งใจในการรวมธรรมชาติ และระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ เข้าสู่สังคมเมืองอย่าง The Forestias โครงการ Mixed use พื้นที่ 300 ไร่ ที่แบ่งพื้นที่กว่า 50% เป็นพื้นที่สีเขียว พร้อมระบบนิเวศที่มีความสมดุลย์ของพืช และสัตว์ ที่อยู่ร่วมกับ ออฟฟิศ ศูนย์การค้า คอนโด และโรงแรม ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคน ทุกช่วงอายุ อย่างครบครันโดยโครงการนี้ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราดโซนนอก ช่วงก่อนถึงบางแก้วเล็กน้อย มีกำหนดการเปิดตัวในปี 2565
Mega City Bangkok
Mega City Bangna (เมกา ซิตี้ บางนา) โครงการต่อขยายของ Mega Bangnaที่นอกจากจะมีศูนย์การค้าที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังรวมที่อยู่อาศัย โรงแรม ออฟฟิศ และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ บนพื้นที่รวม 400 ไร่ งบลงทุนกว่า 67,000 ล้านบาท แม้ว่าจะมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 แต่โครงการจะแบ่งการเปิดตัวเป็นหลายๆ ระยะ เริ่มจาก “โซน Entertainment, Leisure, Sport, Education” ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2561 นี้บนทำเล บางนา-ตราด ก.ม. 9 ที่เราคุ้นเคย
Central Village
ศูนย์การค้า Luxury Outlet ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ออกแบบขึ้นเพื่อรองรับทั้งขาช้อปชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยมีจุดเด่นคือ การขายสินค้าแบรนด์เนมหรู พร้อมส่วนลด 35-70% ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอช่วงเซลล์ อีกหนึ่งโครงการน่าสนใจ กำหนดเปิดตัวโครงการในไตรมาส 3 ปี 2562 อีกไม่นานเกินรอ!
โครงสร้างพื้นฐาน ที่ทำให้ย่านบางนา แตกต่างจากย่านชานเมืองอื่นๆ
หลายคนสงสัยว่า ย่านชานเมืองอื่นๆ เช่น ฝั่งเหนือ และตะวันตก ก็มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และมีโครงการ Mega Project จำนวนไม่น้อยเช่นกัน แล้วทำไมเราจะต้องมาสนใจย่านบางนา มากกว่าย่านอื่นล่ะ? นอกจากจำนวน และความหลากหลายของโครงการที่มากกว่าแล้ว เรายังมีโครงการ ที่ทำให้กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก แตกต่างจากย่านอื่นโดยสิ้นเชิง
สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2
มีคำกล่าวที่ว่า สนามบินสุวรรณภูมิ คือประตูสู่เอเชีย และย่านบางนา ก็คือย่านที่เป็นประตู เชื่อมสุวรรณภูมิ เข้าสู่กรุงเทพฯ ต่างจากชานเมืองฝั่งเหนือ หรือตะวันตก ที่แม้จะมี Hub การเดินทาง แต่ความใหญ่ และจำนวนผู้โดยสารนั้น เทียบไม่ได้เลยกับฝั่งบางนา โดยในปี 2563 สุวรรณภูมิ เฟส 2 จะเปิดให้ใช้บริการ ขยายการรองรับผู้โดยสาร จาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี ตามด้วยเฟส 3 และ 4 ที่จะขยายการรองรับเป็น 90 ล้านคนต่อปี
รถไฟฟ้า Light Rail สายบางนา – สุวรรณภูมิ
ความน่าสนใจอยู่ที่ เมื่อรถไฟฟ้าสายนี้พัฒนาเสร็จ โครงการต่างๆ ข้างต้น จะถูกเชื่อมต่อเข้าหากันโดยรถไฟฟ้าระบบราง ความยาว 14.4 กิโลเมตร 12 สถานี จากเดิมที่การเดินทางในย่านนี้ ต้องพึ่งรถยนต์เป็นหลัก ด้วยระยะทางที่ไกล และถนนที่กว้างมาก จะเปลี่ยนเป็นการเดินทางโดยรถไฟฟ้า ที่ตั้งสถานีค่อนข้างถี่ ให้คนในพื้นที่ สามารถเดินทางระหว่างศูนย์การค้า คอนโด บ้านเดี่ยว ได้สะดวกรวดเร็ว ในบริบทเดียวกับ BTS สายสุขุมวิท ที่คุณคุ้นเคยเลยทีเดียว!
บทสรุป – แล้วเราได้อะไรจากโครงการเหล่านี้?
สิ่งที่คนในพื้นที่จะได้รับจากการเกิดขึ้นของโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก ไม่ได้มีเพียงความสะดวกสบาย สีสัน ความเจริญที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้กำไรจากราคาสินทรัพย์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย
และหากคุณต้องเลือกซื้อบ้าน หรือคอนโดในย่านนี้ คุณชอบแบบไหนมากกว่า ระหว่าง “ซื้อราคาถูก” ในระหว่างที่พื้นที่นี้กำลังถูกพัฒนาขึ้น หรือ “ซื้อในราคาแพง” ในวันที่โครงการต่างๆ (รวมทั้งรถไฟฟ้า บางนา-สุวรรณภูมิ) ได้สร้างขึ้นจนครบหมดแล้ว