เคล็ดลับ เลือกประตูอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน

ส่วนประกอบอย่าง “ประตู” เราก็จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับบ้านด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของเราในแต่ละส่วนด้วย ซึ่งประตูจัดว่าเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับทางเข้าออก จากพื้นที่หนึ่งไปสู่พื้นที่หนึ่งได้ ส่วนหน้าต่างมีไว้เพื่อรับแสงธรรมชาติ เปิดรับลม และช่วยระบายให้อากาศถ่ายเทและหมุนเวียนได้สะดวก และยังใช้เป็นช่องเปิดมุมมองออกไปโดยรอบตัวบ้านได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น เราจึงนำเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกประตูมาฝากกัน

รูปแบบประตูและวิธีการเลือกประตูให้เหมาะกับบ้าน

การที่เราจะเลือกประตูให้เหมาะกับบ้านได้หรือไม่นั่น เราก็จะต้องรู้ก่อนว่าประตูมีกี่แบบ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ซึ่งโดยมากแล้วประตูจะมีด้วยกัน 6 แบบ ได้แก่

  1. ประตูบานเลื่อน

เป็นประตูที่มีลักษณะการใช้งานที่เลื่อนไปด้านข้าง โดยจะมีรางสำหรับเลื่อนทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อช่วยให้เปิดเลื่อนประตูได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด ประตูรูปแบบนี้เราสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปเลยค่ะ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งแบบบานเดียว บานคู่ บานสาม แต่ละแบบก็ต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
ข้อดี : ไม่กินพื้นที่มาก เพราะไม่ต้องผลักเข้า-ออก เหมาะกับห้องหรือบ้านขนาดเล็ก และแสงสว่างเข้าถึง
ข้อเสีย : รางเลื่อนมักสะสมฝุ่น จึงต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ

  1. ประตูบานเปิด

เป็นประตูที่เปิดเพียงทางเดียว ไม่สามารถผลักออกไปได้ โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบบานเดี่ยวและบานคู่ ส่วนใหญ่นิยมใช้ภายในบ้านเป็นหลัก
ข้อดี : ใช้งานง่าย เข้าออกได้สะดวก โดยเฉพาะห้องนอนและห้องน้ำ
ข้อเสีย : ใช้เนื้อที่บริเวณรอบประตูค่อนข้างมาก จึงต้องเหลือพื้นที่เว้นว่างไว้สำหรับการเปิด-ปิดพอสมควรด้วย

  1. ประตูบานเฟี้ยม

เป็นประตูบานพับที่นำมาต่อกันจนกลายเป็นประตูบานใหญ่ ลักษณะการใช้งานเปิดปิด จะใช้การพับซิกแซกสลับกันไป-มา ไปรวมไว้ที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของประตู หรือแยกออกเป็น 2 ฝั่ง นิยมใช้ในการแบ่งพื้นที่หรือเป็นฉากกั้นห้อง
ข้อดี : สามารถเปิดได้กว้างแต่ไม่กินพื้นที่ มีสไตล์ที่สวยงาม
ข้อเสีย : ต้องเข้าใจกลไกการใช้งานสักหน่อยแล้วจะใช้งานได้คล่องขึ้น

  1. ประตูบานสวิง

ประตูแบบนี้จะมีความคล้ายคลึงกับประตูบานเปิด แต่มีความแตกต่างกันอยู่บ้างตรงที่ประตูบานสวิงสามารถผลักเข้าออกได้ทั้งสองทาง บริเวณกรอบบานจะมีอุปกรณ์สวิงลักษณะเหมือนแกนหรือเดือยยึดกับพื้นด้านล่างและวงกบหรือบานประตูหน้าต่างที่ต่อเนื่องด้านบน แบบนี้จึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีคนเข้าออกเป็นประจำ
ข้อดี : เข้าออกได้สะดวกรวดเร็ว
ข้อเสีย : ไม่เหมาะการใช้เป็นประตูภายในบ้าน

  1. ประตูบานหมุน

เป็นประตูที่มีจุดหมุนอยู่ตรงกลางบาน มีทั้งแบบบานเดียวไปจนถึงแบบ 4 บาน มีจุดเด่นก็คือ สามารถตั้งให้หมุนรอบได้ 360 องศา ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ตกแต่งในบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่เยอะ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ตกแต่งในอาคาร ออฟฟิศ โรงพยาบาล หรือสถานที่สาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย
ข้อดี : เปิดใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อม ๆ กันหลาย ๆ คน
ข้อเสีย : ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่และเยอะ เพื่อรองรับระบบการหมุนของประตู

  1. ประตูม้วน

สำหรับประตูแบบสุดท้าย เราอาจจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะมักใช้กันตามอาคารพาณิชย์ต่าง ๆ รวมถึงโกดัง โรงงาน หรือในบ้านเรือนอย่างตึกแถว ทำโรงจอดรถ โดยประตูแบบนี้จะใช้กลไกการทำงานด้วยการเลื่อนเปิดขึ้นไปข้างบนด้วยรอกหรือระบบไฟฟ้า
ข้อดี : ไม่กินพื้นที่ เพราะสามารถม้วนเก็บขึ้นไปด้านบนได้
ข้อเสีย : หากใช้ไปนาน ๆ จะก่อให้เกิดสนิม การเลื่อนขึ้นลงอาจมีติดขัดและสะดุดบ้าง

เราก็ได้รู้จักประตูในแบบต่าง ๆ กันแล้วนะคะ ทีนี้หากใครคิดอยากจะเปลี่ยนหรือทำประตูใหม่ แนะนำให้เลือกประตูที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองและคนในบ้าน เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและใช้งานได้อย่างเต็มที่