อย่างที่ทราบกันดีตามกฎหมาย กำหนดให้ใน 1 โครงการอาคารชุด ชาวต่างชาติได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดของอาคารคอนโดมิเนียมนั้นๆ ทำให้ “ชาวต่างชาติ” เป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าหลักที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมในประเทศไทย ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ชาวต่างชาติ แทบจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ของเหล่าผู้ประกอบการอสังหาฯ เนื่องจากมีกำลังซื้อ และมีความต้องการที่อยู่อาศัยมากกว่าคนไทย

บริษัทต่างชาติใหญ่ๆ อย่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ที่มีบริษัท หรือฐานการผลิตสินค้าในประเทศไทย ก็ต้องเตรียมที่พักอาศัยให้กับลูกจ้างของบริษัทตัวเอง มี Expat ต่างชาติจำนวนมากที่เข้ามาทำงานในประเทศ คอนโดมิเนียม เป็นที่อยู่อาศัยที่เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มลูกจ้างกลุ่มนี้เอง

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์  www.reic.or.th

เปิดเผยข้อมูลการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างๆ ในประเทศไทย 10 อันดับแรกมีดังนี้ (2562 Q3)

  1. จีน ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 5,430 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 20,117 ล้านบาท
  2. รัสเซีย ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 623 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,816 ล้านบาท
  3. ฝรั่งเศษ ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 317 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,242 ล้านบาท
  4. อังกฤษ ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 293 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,185 ล้านบาท
  5. ญี่ปุ่น ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 274 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,139 ล้านบาท
  6. อเมริกา ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 219 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 925 ล้านบาท
  7. เยอรมัน ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 219 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 871 ล้านบาท
  8. ออสเตรเลีย ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 161 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 716 ล้านบาท
  9. ไต้หวัน ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 146 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 649 ล้านบาท
  10. สิงคโปร์ ถือครองกรรมสิทธิ์ในประเทศอยู่ทั้งสิ้น 135 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 758 ล้านบาท

 

จีน
ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

 

และมีชาติอื่นๆ ที่ถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในประเทศอยู่อีก 1,610 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 6,570 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2561 จะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของการถือครองกรรมสิทธิ์ คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติอยู่ที่ 6.1 %  ซึ่ง จีน ก็ยังเป็นประเทศที่มีการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมมากที่สุดในประเทศไทยมากถึง 57.7%  เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5.5%

ทั้งนี้ข้อมูลการถือครองกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติในคอนโดมิเนียมของประเทศไทย จะทำให้เราประเมินได้ว่าในแต่ละปีมีความสนใจของชาวต่างชาติใดชาติใดบ้าง และมากเท่าไหร่ ประเทศใดที่เข้ามาลงทุน หรือซื้ออสังหาของบ้านเรามากน้อยอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลในการลงทุน หรือเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยของตนเอง